สภาลูกหนัง: วัดกันยันนัดส่งท้ายของ ‘พรีเมียร์ลีก’
เข้าสู่เกมสุดท้ายจริง ๆ ของ พรีเมียร์ลีก กันแล้ว และก็ยังไม่สามารถหาได้ว่าใครจะคว้าแชมป์ไปในปีนี้ รวมถึงโควต้ารายการยุโรปที่ยังอลเวงกันอยู่ในเวลานี้
ช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา หนึ่งในทีมลุ้นแชมป์อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีคิวลงเล่นเกมตกค้างกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ โดยที่พวกเขาสามารถบุกไปทุบได้คารังด้วยสกอร์ 2-0 และกุมความได้เปรียบเอาไว้ในเวลานี้ ด้วยการมี 2 คะแนนเหนือทีมที่เบียดกันมาอย่าง อาร์เซนอล
โปรแกรมสุดท้ายของ แมนฯ ซิตี้ นั้นไม่งานยากอะไรเลย เป็นการเปิดบ้านพบกับ เวสต์แฮม ที่ลอยตัวไปเป็นที่เรียบร้อย ไม่มีอะไรให้ลุ้นอีกแล้วในเวลานี้ รวมถึงตัวกุนซืออย่าง เดวิด มอยส์ ก็ได้ให้สัมภาษณ์เหมือนกับถอดใจกับการต้องไปเยือน เอติฮัด สเตเดี้ยม แล้วด้วย
ทางด้านทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ก็ได้ลงเล่นในบ้านตัวเองด้วยเช่นกัน โดยเป็นการเจอกับ เอฟเวอร์ตัน ที่ไม่รู้ร้อนแรงมาจากไหนในช่วงท้ายซีซั่น ด้วยการไม่แพ้ใครใน 5 เกมหลังสุดและเป็นการชนะถึง 4 เกมด้วยกัน แต่ยังไงก็ไม่น่ารอดพ้นจากเกมรุกของเจ้าบ้านที่ได้เล่นในถิ่น เอมิเรตส์ หรอก
อย่างที่เกริ่นไปว่า ‘เรือใบสีฟ้า’ กุมชะตาเอาไว้ในมือของตัวเอง ด้วยการที่พวกเขาต้องชนะเท่านั้น ไม่ต้องไปสนผลการแข่งขันของคู่อื่นเลย แล้วก็จะได้คว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 4 ติดต่อกันสมใจ
แต่ถ้าหากพวกเขาพลาดเสมอขึ้นมาก็จะกลายเป็นความบรรลัยในทันที ด้วยการที่ลูกได้เสียเป็นรองทางด้านของ ‘ปืนใหญ่’ อยู่เม็ดเดียว และจะทำให้ทีมจากลอนดอนเหนือมีสิทธิ์ที่จะเถลิงคว้าแชมป์ลีกเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปีทันที
ส่วนของการแย่งโควต้ารายการยุโรปก็เหลือเพียงแค่ 2 ถ้วยจิ๋วเท่านั้น โดยที่โควต้า แชมเปี้ยนส์ลีก นั้นถูกจับจองไปหมดแล้ว นอกเหนือจาก 2 ทีมแย่งแชมป์ก็จะเป็นทาง ลิเวอร์พูล และ แอสตัน วิลล่า ที่ได้กลับไปเล่นในรายการนี้อีกครั้ง นับตั้งแต่ฤดูกาล 1982-83 หรือตั้งแต่ที่รายการนี้ยังใช้ชื่อเดิมว่า ยูโรเปี้ยนคัพ กันอยู่เลย
สำหรับโควต้าทั้ง ยูโรป้า และ คอนเฟอเรนซ์ลีก นั้นยังจบได้ 2 รูปแบบนะครับ ขึ้นอยู่กับว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะคว้าแชมป์ เอฟเอคัพ ในสัปดาห์หน้าได้หรือไม่ รวมถึงอันดับของพวกเขาในลีกด้วยเช่นกัน
พิจารณาถึงอันดับในลีกแล้วก็ดูจะยากเสียหน่อยสำหรับทีมของ เอริก เทน ฮาก ที่เป็นรองในเรื่องของประตูได้เสียที่ติดลบ 3 และของทางฟากคู่แข่งอีก 3 ทีมนั้นบวกหลักสิบกันหมดเลย
3 ทีมที่ว่าก็ได้แก่ ท็อตแน่ม, เชลซี และ นิวคาสเซิล โดยทางด้านของ อังเก้ ปอสเตโคกลู ไม่น่าจะพลาดแล้ว เพียงแต่จะได้ไปเล่นในรายการไหนเท่านั้นเอง แต่ขอแค่บุกไปเสมอกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ได้ ทุกอย่างก็ปิดจ็อบสำหรับพวกเขา บอกตรง ๆ เลยว่าโคตรง่าย
‘สิงห์บลูส์’ ห่างจากอันดับ 5 เพียงแค่ 3 คะแนน แต่ก็อย่างที่เกริ่นไปอ่ะครับ จะให้ สเปอร์ส ไปแพ้ทีมบ๊วยของตารางก็เป็นไปได้ยาก อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ยังคงต้องทำคะแนนหนี ‘สาลิกาดง’ ที่ตามหลัง 3 คะแนนและประตูได้เสียก็โหดจัดด้วยการบวกอยู่ถึง 21 ลูก
ฟอร์มการเล่นจากทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ก็สุดจัดด้วยการชนะมาถึง 4 เกมติด และได้ลงเล่นในบ้านเจอกับ บอร์นมัธ ก็อาจไม่ใช่เกมที่ง่ายนัก แต่ในนาทีนี้จะไปหยุด โคล พาลเมอร์ ก็คงยากหน่อยอ่ะครับ
ส่วน นิวคาสเซิล ต้องออกไปเยือน เบรนท์ฟอร์ด ที่ช่วงนี้ก็เหนียวพอควร ไม่แพ้ใครในบ้านมา 5 เกมติด ก็ไม่รู้ว่าจะออกมาหน้าไหนเหมือนกัน แต่ยังไง เอ็ดดี้ ฮาว ก็ต้องเก็บ 3 คะแนนเพื่อการันตีอันดับ 7 เอาไว้ให้ได้อ่ะครับ
แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ต้องบุกไปเอาชนะ ไบรท์ตัน มาให้ได้ แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็ยังคงมีทางลัดอย่างการคว้าแชมป์บอลถ้วยอยู่นั่นแหละครับ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเป็น ‘ทางตัน’ รึป่าวนั่นแหละครับ เพราะต้องเจอกับ แมนฯ ซิตี้ ในรอบชิงชนะเลิศ
ซึ่งถ้าหาก ‘ปีศาจแดง’ จบอันดับที่ 8 และคว้าแชมป์ เอฟเอคัพ มาได้ ทีมที่จะต้องปิ๋วไปคืออันดับที่ 7 นั่นแหละครับ นั่นจึงทำให้ทุกทีมที่ยังมีลุ้นต้องสู้กันจนหยดสุดท้าย แต่ถ้าจะให้เซฟสุดสำหรับพวกเขา ก็ต้องแซงหน้า ‘เดอะ แม็กพายส์’ ให้ได้ก่อนในเกมนัดสุดท้าย
ทั้งนี้ทั้งนั้นความสนุกของลีกอังกฤษในเวลานี้ ก็คือการต้องวัดกันจนหยดสุดท้ายอ่ะครับ ไม่ว่าจะเป็นการลุ้นแชมป์ลีก รวมถึงโควต้ายุโรป ‘ถ้วยรอง’ เพียงแต่ขาดสีสันของการลุ้นหนีตกชั้นเท่านั้นเองที่จบไวไปหน่อย แล้วมารอดูกันครับว่าบทสรุปของฤดูกาลนี้ว่าจะจบกันอย่างไร
เขียนโดย The Lite Team.
LS Sport ข่าวกีฬาคนรุ่นใหม่ 24 ชม.